วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Kate Moss Lilabelle Truly Adorable


Kate Moss Lilabelle Truly Adorable


เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่
http://wearecharming.com


ในปี 2011 Kate Moss นางแบบผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการแฟชั่นได้นำเสนอผลงานน้ำหอมอีกตัวหนึ่งของเธอในชื่อ Lilabelle อันเป็นน้ำหอมที่สื่อถึงประสบการณ์ของการเติบเพื่อก้าวย่างเข้าสู่วัยสาวอย่างเต็มตัวของผู้หญิงซึ่งได้แสดงออกมาด้วยโทนกลิ่นหลักที่เน้นความหอมสดใสของดอกลีลาวดี, ดอก Osmanthus และความหอมที่อบอุ่นลึกซึ้งของกลิ่น Musk ที่ให้ความรู้สึกอันละเอียดอ่อน สนุกสนาน มีชีวิตชีวา ทันสมัยและคลาสสิกที่เข้ากับบรรยากาศช่วงกลางวันที่สดใสของช่วงฤดูใบหม้ผลิได้เป็นอย่างดี   


และในช่วงหน้าร้อนปี 2012 นี้ Kate Moss ได้นำเสนอน้ำหอมอันเป็นผลงานต่อเนื่องของน้ำหอม Lilabelle นี้ออกมาในชื่อน้ำหอม Lilabelle Truly Adorable ซึ่งยังคงลักษณะโทนกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอันนุ่มนวลและ มีชีวิตชีวาในแบบผู้หญิงอยู่อย่างเต็มที่เช่นเดิม

จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจของน้ำหอม Lilabelle Truly Adorable นี้ Kate Moss ได้นำเอาความรู้สึกสนุกสนานของประสบการณ์การพักพ่อนช่วงหน้าร้อนที่บ้านพักแถบชนบทในวัยเด็กของเธอมาผสมผสานกับ ความน่ารักไร้เดียงสาในแบบเด็กผู้หญิงของลูกสาวของเธอ ซึ่งเธอได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรและออกแบบน้ำหอมตัวนี้ไว้ว่า

“Lilabelle Truly Adorable is dedicated to my daughter Lila, inspired by her girlish innocence.  It captures the pure beauty and playful sense of fun of youth. Old-fashioned floral prints have always been a part of my summer wardrobe and were a true inspiration for both the fragrance and design”

น้ำหอม Lilabelle Truly Adorable นี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับความน่ารักอันไร้เดียงสาในแบบเด็กผู้หญิงลูกสาวของฉัน Lila และเพื่อสื่อถึงภาพประสบการณ์วัยเด็กของฉันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สนุกสนาน ร่าเริงของการเดินทางไปพักผ่อนช่วงฤดูร้อนในชุดลวดลายดอกไม้สีสดใส ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรผลงานและ ออกแบบน้ำหอมให้กับตัวฉัน


ในด้านของการสร้างสรรโทนกลิ่นนั้นน้ำหอม Lilabelle Truly Adorable นี้จะมีโทนกลิ่นในแบบ Floral - Green - Fruity Note ซึ่งได้รับการออกแบบโทนกลิ่นโดยนักปรุงน้ำหอม Alexis Dadier ที่ได้นำเอาโทนกลิ่นหอมของดอกไม้ที่สื่อถึงความรู้สึกสดใส งดงามในแบบผู้หญิง ผสมกับความรู้สึกสดชื่น สนุกสนาน มีชีวิตชีวาของหน้าร้อนที่แสดงออกมาด้วยโทนกลิ่นหอมสดชื่นของต้นไม้และใบไม้แบบ Green Note ผสานกับโทนกลิ่นหวานของผลไม้และ ขนมหวานที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สนุกสนานของวัยเด็กแบบ Gourmand - Fruity Note   

โดย Top Note ของน้ำหอมตัวนี้จะประกอบด้วยกลิ่นหวานสดชื่น น่าสนุกสนานของขนม Candy Apple,ผล Redcurrant และกลิ่นหอมชุ่มชื่นใบของไม้เลื้อย Ivy ในส่วนของ Heart Note นั้นจะเป็นโทนกลิ่นหอมสดใสมีชีวิตชีวาของดอกกระดิ่งลม Lily of the Valley, ดอก Hawthornและกลิ่นหวานอ่อนๆของดอก Sweet Pea   



สำหรับในส่วนของ Base Note นั้นจะเป็นโทนกลิ่นหอมอ่อนโยน ลึกซึ้ง อบอุ่นของเนื้อไม้หอมแบบ Wood Note อันได้แก่กลิ่นของไม้จันทน์, ไม้ Almondwood, ไม้ Cashmerewood และกลิ่น Musk ซึ่งโทนกลิ่นโดยรวมของน้ำหอมตัวนี้จะเป็นโทนกลิ่นที่ค่อนข้างเน้นความสดใส โดดเด่นซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเวลากลางคืน และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับ ฤดูหนาว
รูปแบบทรงขวดของน้ำหอม Lilabelle Truly Adorable นี้จะเป็นขวดแก้วใสทรงกระบอกวงรีสีทองสว่างเช่นเดียวกับในส่วนของตัวฝาขวดที่เป็นฝาโละหะสีทองเข้มที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่โดดเด่น และหรูหราให้กับน้ำหอมตัวนี้ได้อย่างชัดเจนที่ส่วนด้านหน้าของขวดจะมีลวดลายตัวหนังสือสีดำเข้มโดดเด่นตัดกับสีทองของสีขวดเขียนชื่อน้ำหอมและชื่อผู้สร้างประดับอยู่ ในส่วนของตัวกล่องน้ำหอมจะเป็นกลิ่นสีดำที่มีลวดลายเป็นดอกไม้ขนาดเล็กๆหลากหลายสีอยู่รอบตัวกล่อง โดยน้ำหอม Lilabelle Truly Adorable นี้ได้ผลิตออกมาในรูปแบบของน้ำหอม EDT ขนาด 30 และ 50 ml

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

น้ำหอม Lancome La Vie Est Belle

น้ำหอม Lancome La Vie Est Belle


La Vie Est Belle เป็นชื่อน้ำหอมใหม่ตัวล่าสุดของ Lancome คาดกันว่ามันจะออกสู่ตลาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ 2012 น้ำหอมถูกสร้างภายใต้คอนเซ็ปที่ว่า "ความสวยงามแบบเรียบง่ายและธรรมชาติ, ความอิสระและมุมมองแห่งความสุข" มันเป็นน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสุขใจในสิ่งเล็กๆ
น้ำหอมนี้ได้รับการรังสรรขึ้นจากนักปรุงแต่งน้ำหอมชื่อดังอย่าง Olivier Polge, Dominique Ropion และ Anne Flipo สูตรน้ำหอมนี้ได้รับการปรุงแต่งและปรับปรุงไปกว่า 5,000 สูตรใน 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีดอกไอริสเป็นนางเอกของน้ำหอมและได้ดอกส้มและมะลิเป็นนางรอง เมื่อละอองของน้ำหอมถูกฉีดออกมา กลิ่นแนวผลไม้ก็ออกมาเป็นกลิ่นของ black currant และลูกแพร ขณะที่กลิ่นเบสโน๊ตจะให้ความอบอุ่นของ tonka, praline, patchouli, vanilla
Top notes: black currant, pear
Heart: iris, orange blossom, jasmine
Base: tonka, praline, patchouli, vanilla
ขวดของน้ำหอมได้รับการออกแบบใหม่จากขวดน้ำหอม Lancome รุ่นคลาสสิคในปี 1949 ส่วนการถ่ายภาพนิ่งเพื่อการโฆษณา เราได้ Julia Roberts มาเป็นนางเอกโฆษณาและได้ช่างภาพอย่าง Tarsem Singh มาถ่ายรูปให้ น้ำหอมตัวนี้เป็นน้ำหอมประเภท Eau De Parfum ในขนาด 30 ml., 50 ml., 75 ml.

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กลิ่นน้ำหอมและวัตถุดิบ ตอนที่ 8 ผลไม้

กลิ่นน้ำหอมและวัตถุดิบ ตอนที่ 8 ผลไม้


หลังจากที่เราเคยแนะนำวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำหอมไปหลากหลายวัตถุดิบ วันนี้เราจะพาคุณไปชมวัตถุดิบฮอตฮิตและขาดไม่ได้ในการทำน้ำหอมหลากหลายแบรนด์และรุ่น นั่นคือ วัตถุดิบผลไม้ ซึ่งวัตถุดิบที่เรานำมาให้ชมกันมี 13 ชนิดด้วยกัน วัตถุดิบผลไม้นี้เป็นที่นิยมกันในหมู่น้ำหอมมีความทันสมัยไม่ตกยุคและเป็นพื้นฐานที่จะทำให้ผู้คิดค้นกลิ่นน้ำหอมสามารถต่อยอดความคิดได้ ซึ่งวัตถุดิบผลไม้ส่วนใหญ่ที่นำมาสังเคราะห์และสกัดก็คือ เมล่อน, ลูกพีชและแอปเปิ้ลเป็นวัตถุดิบที่นำมาเป็นส่วนผสมของน้ำหอมบ่อยที่สุด

Grape

องุ่น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vitis Vinifera เป็นส่วนประกอบที่จะให้กลิ่น Fruity, juicy, flowery, woody, winey, musky องุ่นเป็นผลไม้ที่เติบโตเป็นเครือ เป็นไม้เลื้อยแบบเถาวัลย์ สามารถนำมาหมักทำเป็นไวน์ มันมีทั้งสีเขียวไปจนถึงสีม่วงเข้ม ถึงแม้ว่ามันสามารถกินสดๆได้ นำมาทำเป็นน้ำองุ่นได้หรืออบแห้งเป็นลูกเกดได้ แต่ก็ไม่วายที่มันจะนำมาทำเป็นไวน์และทำเป็นคอนญัก กลิ่นขององุ่นนี้จะนำมาผลิตใหม่ในห้องแลปโดยการรวมกันของโมเลกุลที่แตกต่างกัน ผลองุ่นนี้เหมาะที่จะนำไปใช้กับน้ำหอมที่ให้กลิ่นนุ่มนวลและกลิ่นลูกกวาดกลิ่นองุ่น นอกจากองุ่นจะใช้ทำเป็นผลไม้และไวน์แล้ว มันยังมี polyphenols ที่ใช้ในเครื่องสำอางค์มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

Kiwifruit

หรือผลกีวี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Actinia Chinensis เป็นวัตถุดิบที่จะให้กลิ่น Fruity, green, exotic, crisp มันเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน แต่เอามาปลูกในยุโรป, นิวซีแลนด์, เอเชีย, ชิลี, อเมริกาและอีกหลายๆที่ ผลของมันมีสีน้ำตาลและมีขน เนื้อข้างในมีสีเขียวสดใสและสีขาว มีเมล็ดสีดำเล็กๆมากมายในผลไม้นี้ การสังเคราะเพื่อให้ได้สารนำมาทำเป็นน้ำหอมต้องเข้ากระบวนการซับซ้อนในห้องแลปเพื่อที่จะได้โมเลกุลนำมาเป็นสารในน้ำหอม น้ำหอมที่นำวัตถุดิบกีวีมาใช้ค่อนข้างหายาก มันให้กลิ่นผลไม้ ทาร์ทซึ่งเป็นกลิ่นที่แปลกใหม่

Red Currant

ผลไม้นี้เรียกชื่อตามศัพท์ภาษาอังกฤษ มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Ribes Rubrum ให้กลิ่นแบบ Fruity, green, tart, black currant, raspberry มันเป็นผลไม้เล็กๆที่เติบโตเป็นเครือ มีต้นสูง 4-6 ฟุต มีทั้ง red, white, black currant สุดท้ายก็เรียกว่า "cassis" แคสซิซ ที่รู้จักและมีชื่อเสียงด้านไวน์ที่เรียกว่า crème de cassis กระบวนการสกัดเพื่อให้ได้สารนำไปทำน้ำหอมมันมีกระบวนการที่ซับซ้อน ต้องทำในห้องแลป ส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบนี้ใช้ในน้ำหอมผู้หญิง มันทำให้น้ำหอมกลิ่นดอกไม้เพิ่มสีสันและชีวิตชีวาขึ้น ผลไม้ชนิดนี้สามารถกินสดๆหรือนำไปทำซอส, เจลลี่หรือแยมก็ได้ตามใจชอบ

Guava

หรือ ฝรั่ง มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Psidium Guajava มันให้กลิ่นแบบ Fruity, exotic, green, passion fruit, tutti fruit ผลไม้ชนิดนี้เกิดจากต้นฝรั่ง ผลของมันมีความหนา มีเนื้อสีขาวและชมพูให้รสชาติแปลกใหม่ ต้นฝรั่งนี้เติบโตได้ดีในละติจูดที่อบอุ่น เติบโตได้ดีในอเมริกาใต้ แถบแคริบเบียน ส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบนี้ใช้ในน้ำหอมผู้หญิง ให้กลิ่นสีเขียวของพืชธรรมชาติ ผลไม้ชนิดนี้ภายในมีเนื้อนิ่ม แต่รสชาติดีมาก เราสามารถทานกันสดๆหรือนำไปปั่นกับผลไม้และเหล้าชนิดอื่นให้กลายเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งผลไม้ชนิดนี้สามารถแปรรูปได้หลากหลายอย่าง ต้นฝรั่งสามารถนำมาประดับตกแต่งสถานที่ได้อีกด้วย มันมีดอกสีขาวและชมพู

Strawberry

เรารู้จักกันดีกับผลไม้นี้ สตอรเบอร์รี่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Fragaria Vesca ให้กลิ่น Red Berry, juicy, green floral ผลไม้นี้เติบโตได้มากมายหลายประเทศที่มีอากาศเย็นๆ ผลไม้สตอรเบอร์รี่นำมาแปรรูปได้หลากหลายหรือกินแบบสดๆก็อร่อย ใช้ทำน้ำหอมแนวกลิ่นดอกไม้ผลไม้ มันจะให้กลิ่นของดอกไม้เหมือนกับดอกไม้สีขาวและดอกไวโอเล็ท

Cherry

มาถึงผลไม้ที่เรียกว่าเชอรี่กันบ้าง มีศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ว่า Prunus Cerasus มันให้กลิ่นแบบ Red berries, almond, juicy, green เชอรี่เป็นผลไม้ที่ผลิออกมาจากต้นเชอรี่ เป็นพืชในตระกูล rosaceae มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมจากเอเชีย  แต่เติบโตได้หลากหลายประเทศในเอเชีย, ยุโรปและอเมริกาเหนือ ผลไม้ชนิดนี้มีหลากหลายพันธุ์ มีตั้งแต่สีชมพูไปจนถึงดำเข้ม ผลไม้ชนิดนี้จะไม่มีน้ำมัน essential ให้เรากลั่นออกมา ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนในการนำสารและกลิ่นออกมา นอกจากใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำหอมแล้ว เรายังสามารถรับประทานสดๆ และนำมาทำเป็นแยมได้อีกด้วย วัตถุดิบนี้ใช้ในน้ำหอมที่หลากหลาย ในประเทศญี่ปุ่นจะมีเทศกาลฉลองเทศกาล cherry-blossom ซึ่งเป็นประเพณีสืบทอดกันมายาวนาน

Banana

กล้วยเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันบ่อยๆในน้ำหอม มีศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa Acuminata ให้กลิ่นแบบ Fruity, green, creamy ผลไม้นี้เป็นพืชล้มลุกที่มีต้นที่สามารถสูงได้ถึง 25 ฟุตเลยทีเดียว เติบโตได้ดีในอากาศอบอุ่นแถบเอเชีย, อเมริกาใต้, แอฟริกาและแถบแคริบเบียน กล้วยมีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งสีเขียว, เหลืองและแดง เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายคือ ทานสดๆและแปรรูปได้หลากหลายวิธีการ

Apricot

แอพริคอตมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Prunus Armeniaca มันให้กลิ่นแนว Fruity, almondy, juicy เป็นพืชที่อยู่ในตระกูล rosacea มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน มันเจริญเติบโตได้ดีในภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ มีตั้งแต่ผลสีเหลือง, ส้มแล้วออกสีแดงๆ วัตถุดิบชนิดนี้สามารถใช้ทำเป็นน้ำหอมและเครื่องสำอางค์ต่างๆได้หลากหลาย มันจะทำให้เครื่องสำอางค์หอมกลิ่นผลไม้และออกไปทางกลิ่นอัลมอนด์อีกด้วย น้ำมันของผลไม้ชนิดนี้มีส่วนทำให้ผิวของคนเราเนียนนุ่มและเป็นอาหารผิวได้ดีอีกด้วย

Apple

ผลไม้ที่คนไทยนิยมอีกชนิดหนึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pyrus malus เป็นผลไม้, ผลไม้สีเขียว, เป็นน้ำผลไม้ก็ได้และกลิ่นที่จำกันได้ดี เป็นผลไม้ที่อยู่ในส่วนหนึ่งของตระกูล rosaceous มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียกลาง เติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาว มีทั้งสีแดง, เขียว, เหลืองและสีเทา มีมากมายหลากสายพันธุ์ที่รู้จักกันดีก็มี Granny Smith, Golden Delicious, McIntosh, Winesap, Pink Lady, Gala และอื่นๆอีกมากมาย วัตถุดิบชนิดนี้ใช้ได้ทั้งน้ำหอมผู้หญิงและชาย เป็นน้ำหอม, โลชั่นและผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อีกด้วย น้ำมัน essential ไม่สามารถสกัดออกมาจากแอปเปิ้ล ต้องใช้ส่วนผสมอื่นๆในการนำสารออกมาใช้ ส่วนประกอบที่ว่านี้คือ Verdox มันเป็นสารสังเคราะห์ในการนำกลิ่นโน๊ตของแอปเปิ้ลออกมา

Peach

หรือลูกพีชมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Prunus persica เป็นพืชในตระกูล rosaceous มีต้นกำเนิดในประเทศจีน เติบโตได้ดีในสภาพอากาศเย็นและสภาพอากาศแบบเมดิเตอเรเนียน ในพืชตระกูลเดียวกันอย่าง nectarine (ผลไม้ประเภทลูกท้อ) เจริญเติบโตในต้นพีชเหมือนกัน มีความแตกต่างกันของสีผิวและสีเนื้อใน วัตถุดิบอย่างพีชถูกใช้ในเครื่องสำอางค์หลากหลายประเภท มักจะใช้ในน้ำหอมกลิ่นผลไม้นุ่มๆหรือช่อดอกไม้บูเกต์ ส่วนวิธีการสกัดเอาสารจากในวัตถุดิบนี้จะทำในห้องแลปโดยใช้วิธีที่เรียกว่า gamma-undecalactone ชื่อพฤกษศาสตร์ของพีชคือ malum persicum มีความหมายว่า แอปเปิ้ลแห่งเปอร์เซีย ต้นกำเนิดของมันจริงๆคือประเทศจีน เป็นผลไม้ที่นิยมตั้งแต่โบราณ

Mango

หรือมะม่วง ผลไม้ยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งในบ้านเรามีมากมายหลากหลายพันธุ์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mangifera indica มันได้รับคำอธิบายสั้นๆว่า Fruity, exotic, lactonic, terebenthine มะม่วงเป็นพืชในตระกูลวงศ์ anacardiaceous เติบโตได้ดีในภูมิภาคเขตร้อนอย่างเช่น เอเชีย, อเมริกากลางและแอฟริกา เมื่อผลไม้อ่อนๆจะมีรสเปรี้ยว เมื่อสุกจะออกหวานๆแตกต่างกันไปหลากหลายสายพันธุ์มีสีเหลืองไปจนถึงส้ม เนื้อจะชุ่มฉ่ำน้ำมากๆ เมล็ดจะเป็นรูปไข่จะใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของผล ส่วนใหญ่จะใช้เป็นวัตถุดิบในน้ำหอมผู้หญิง ซึ่งจะนำความแปลกใหม่สัมผัสได้ถึงผลไม้

Raspberry

ผลราสเบอร์รี่เป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้แปรรูปกันอย่างแพ่รหลาย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rubas Idaeus ได้รับคำอธิบายว่า Fruity, juicy, berry, recoginizable ส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบชนิดนี้จะใช้ในส่วนผสมของน้ำหอมผู้หญิง สามารถแปรรูปได้หลากหลายทั้งแยมราสเบอร์รี่, เชื่อม, แช่อิ่ม, น้ำผลไม้หรือจะทานสดๆก็ได้เช่นกัน

Melon

แตงมีหลายชนิดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis Melo ได้คำอธิบายสั่นๆว่า Aquatic, fruity, juicy มันเป็นผลไม้ที่อยู่ในวงศ์ตระกูลของ cucurbitaceous เหมือน บวบ, ฟักทอง, แตงกวา เนื่องจากเมลอนมีหลากหลายสายพันธุ์จึงมีการเรียกสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปอย่างเช่น cantaloupe, casaba, honeydew, musk และอื่นๆอีกมากมาย วัตถุดิบนี้จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของกลิ่นผลไม้ทั้งในน้ำหอมผู้หญิงและชาย อีกทั้งยังใช้ในการพัฒนาน้ำหอมในแนวกลิ่นอะควาติกและกลิ่นแนวผลไม้ เมลอนเป็นผลไม้ที่รู้จักกันดีทั้งในเรื่องของรสชาติและรูปผล ใช้เป็นของหวานหรือสลัดผลไม้และไอศครีม น้ำมันในเมล็ดของมันยังนำไปใช้ในการทำเครื่องสำอางค์ได้อีกด้วย